ผมได้เดินทางไปเที่ยวโปแลนด์ระหว่างวันที่ 4-14 เม.ย. 2019 ซึ่งก็ถือว่าโปแลนด์เป็นประเทศที่คนไทยยังไปน้อยอยู่ เหตุผลก็ไม่ยากครับ นั่งเครื่องบินนาน ไม่มีไฟลท์ตรง คนส่วนใหญ่ก็สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยคล่องเท่าไร แต่เป็นประเทศที่น่าเที่ยวนะครับ
การเดินทางข้ามเมืองก็ไม่ยากเกินไป สามารถจบได้ที่สถานีรถไฟใหญ่ประจำเมือง หากต้องนั่งรถบัสก็สะดวก เพราะสถานีรถบัสก็จะอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟ
การเดินทางนี้ทำให้ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้น เลยขอเขียนสรุป 11 ข้อให้อ่านในความยาวกำลังพอดี
1. วางแผนเที่ยวด้วย Google Maps
การวางแผนเที่ยวสิ่งสำคัญสุดคือ การวางแผนเดินทางข้ามเมือง แนะนำเลยว่าใช้ Google Maps จบได้ในที่เดียว ละเอียดมาก
ยกตัวอย่างเช่น เราจะเดินทางจาก Warsaw -> Wroclaw จากนั้นให้เลือกวิธีการเดินทางแบบรถสาธารณะ ซึ่งครอบคลุมรถไฟ, รถบัส, Tram [หมายเลข 1] แล้วก็คลิกเลือกดูตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งขึ้นมาก่อน [หมายเลข 2]
จากนั้นให้เลือก Schedule Explorer [หมายเลข 3]
ทุกความเป็นไปได้ในการเดินทาง จะแสดงให้เราเห็นในลักษณะ Timeline ที่ด้านบนของหน้าต่างนี้ ก็ให้เลือก วันที่/เวลา/ตัวเลือกการเดินทาง ที่เราต้องการ ซึ่งในโปแลนด์จะมีวิธีการเดินทางข้ามเมืองหลักๆ ที่ผมจะแนะนำในข้อต่อไป
2. เดินทางข้ามเมืองต้องรถไฟของ IC กับรถบัสของ Flixbus
หลังจากที่เราเลือกวันเวลาคร่าวๆ ที่คิดจะออกเดินทาง ก็ให้เราคลิกที่เส้นวิธีการเดินทางที่เราสนใจ Google ก็จะแสดงข้อมูลแจกแจงแบบละเอียดเลยล่ะ พยายามเลือกการเดินทางที่มีการต่อรถน้อยที่สุด โดยผมแนะนำให้ใช้บริการ 2 เจ้านี้พอครับ
- ถ้าเป็นเส้นทางจากเมืองใหญ่ไปเมืองใหญ่ แนะนำให้ขึ้นรถไฟของ IC (คล้ายการรถไฟแห่งโปแลนด์) โดยเข้าไปซื้อตั๋วที่เว็บ www.intercity.pl/ หรือซื้อผ่าน app IC Mobile Navigator (ตัว app จะมีแต่เป็นภาษาโปแลนด์ ^^!) ย้ำครับว่า ให้จองซื้อตั๋วออนไลน์ไปเลยนะครับ เราจะได้มีที่นั่งแน่นอน
- ถ้าเป็นเส้นทางจากเมืองใหญ่ไปเมืองเล็ก หรือเมืองเล็กไปเมืองใหญ่ ให้ใช้บริการ Flixbus เข้าไปซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ https://global.flixbus.com/bus/poland หรือ app Flixbus (แนะนำ ใช้งานง่ายดี)
พวกตั๋วรถ เราไม่จำเป็นต้องพิมพ์ออกมาก็ได้ครับ เซฟเก็บไว้ในเครื่องเป็นไฟล์ PDF หรือเป็นรูปก็ได้ ขอให้มีบาร์โค้ดแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจก็พอ ถ้าซื้อผ่าน app ยิ่งดีครับ ตั๋วเดินทางก็จะบันทึกอยู่ใน app เลย
ประเภทรถไฟของ IC ก็จะมี
- IC (Intercity): รถไฟจอดหลายสถานีหน่อย
- EIP (Express Intercity Premium): รถไฟขบวนด่วนหน่อย หรูกว่า IC แต่อาจไม่ได้ใช้เวลาเดินทางเร็วกว่าแบบ IC นะ
ดังนั้นเอาจริงๆ แล้ว การวางแผนเดินทางข้ามเมือง เราแค่เข้าเว็บ/app ของ IC กับ Flixbus ก็ครอบคลุมการเดินทางทั่วประเทศแล้วครับ
ยกตัวอย่างเช่น ผมมีทริปที่ต้องเดินทางจาก ซาโคปาเน่ (Zakopane) ไปวอร์ซอว์ (Warsaw) ตอนแรกก็ลองใช้ Google Maps ดูวิธีการเดินทาง แต่ว่ามันต้องต่อรถเยอะมาก หากอยากไปถึงแบบต่อเดียว ก็ต้องนั่งรถบัสนานมากๆ ผมจึงเลือกแบ่งการเดินทางเป็น ซาโคปาเน่ -> คราเคา (Krakow) -> วอร์ซอว์
- ซาโคปาเน่เป็นเมืองเล็ก คราเคาเป็นเมืองใหญ่ ดังนั้นให้เลือกเดินทางด้วยรถบัส Flixbus
- จากคราเคาเป็นเมืองใหญ่ ไปวอร์ซอว์เมืองใหญ่ ดังนั้นให้เลือกเดินทางด้วยรถไฟ IC
ดูเวลาจากเว็บไซต์ทั้ง 2 ลิงค์ที่ผมบอกไปด้านบน มาประกอบวางแผนการเดินทาง ก็จะทำให้ถึงจุดหมายปลายเร็วขึ้น
ไม่ต้องกลัวเรื่องการต่อรถไฟไปรถบัสด้วยครับ เพราะส่วนใหญ่สถานีรถไฟกับสถานีรถบัสจะอยู่ใกล้ๆ กัน เดินชิวๆ ก็ประมาณไม่เกิน 10 นาที
3. ชักโครกมีระบบประหยัดน้ำทุกห้อง
สิ่งที่น่าชื่นชมในโปแลนด์ ห้องน้ำจะมีปุ่มให้เลือกกดแบบประหยัดน้ำทุกห้องและทุกที่ แม้ที่ห้องน้ำสาธารณะก็จะพบปุ่มให้เลือกระบายน้ำแบบประหยัดด้วยเช่นกัน รูปแบบปุ่มกดก็ดูน่าสนใจด้วยครับ
4. พัก Airbnb ไม่ต้องรอกุญแจจากเจ้าของห้อง
ทริปโปแลนด์สำหรับเมืองเล็กๆ ผมจะเลือกพัก Airbnb วิธีการเข้าห้องชอบมากครับ เพราะทางโฮสต์จะบอกโค้ดรหัสในการเปิดประตูมาให้ทางแชทของ app Airbnb จากนั้นพอเข้าไปในห้อง ก็จะมีกุญแจสำหรับเปิดห้องให้ตามปกติ แต่ถ้าไม่อยากพกกุญแจ ก็ขยันจำโค้ดรหัสหน่อย คิดว่าคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงโค้ดทุกๆ สัปดาห์หรือทุกเดือนมั้งครับ ไม่งั้นคนเคยพักก็แอบเข้าไปได้เนอะ
ที่พัก Airbnb จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน และมีสไตล์ที่แตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น แนะนำเลยว่า หากเป็นเมืองรีสอร์ท หรือเมืองเล็กๆ ให้ลองมองพัก Airbnb จะทำให้ทริปนั้นดูน่าจดจำขึ้นเยอะเลยครับ
5. ใบเสร็จผอมมาก
ช่วงที่ไปอากาศกำลังหนาวได้ที่ พอผ่านร้านไอติมมันดูน่ากินมาก เลยจัดมากินซะเลย ให้มันหนาวตื่นตัว และรู้สึกตื่นตาเมื่อได้เห็นใบเสร็จผอมมาก ดูน่ารักไปอีกแบบ
6. Lime-S สกูตเตอร์ขี่กันให้ว่อน
รถสกูตเตอร์ไฟฟ้าในโปแลนด์จะเป็นพาหนะที่เชื่อมการเดินทางระหว่างจุดย่อยๆ เรียกว่า Lime-S หากอยากใช้งาน ต้องสแกนบาร์โค้ดที่อยู่ตรงหัวคันบังคับ แล้วทำตามขั้นตอนเพื่อปลดล็อค จากนั้นก็บรื้นๆ ขับไปไหนได้สะดวกสบาย จอดที่ไหนก็ได้ไม่ต้องกลัวขโมย เพราะมีระบบ GPS คอยติดตาม
7. รถจอดบนทางเท้า
ตามแต่ละเมือง ถ้าเห็นรถยนต์เกยล้อขึ้นมาจอดบนทางเท้า ไม่ต้องแปลกใจ มันเป็นเรื่องปกติ แต่จะดูว่าทางเท้าไหนจอดได้ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ
8. Wroclaw เมืองน่ารัก
เมือง Wroclaw / วรอชวาฟ (วะ-รอ-ชะ-วาบ-ฟ) เป็นเมืองที่ได้รับรางวัล European Best Destination 2018 ทำให้อยากได้ลองมาเที่ยวเมืองนี้ดูว่าสมกับรางวัลจริงหรือเปล่า คำตอบที่ได้คือ ชอบมากๆ เลย
เมืองนี้จะมีไฮไลท์ที่มีแม่น้ำตัดกลางเมือง เพิ่มมนเสน่ห์ด้วยโบสถ์หอคอยคู่สุดแสนจะโรแมนติกมากๆ เป็นเมืองแห่งวัยรุ่นวุ่นรัก เต็มไปด้วยสีสันความหนุ่มสาววัยมัน เด็กๆ ก็เยอะ แถมมีเกมให้ตามล่าคนแคระตามแต่ละที่ในเมืองอีกด้วย จะต้องตกใจว่า คนแคระอยู่เกือบทุกที่จริงๆ!
9. กินอาหารสไตล์ Canteen
มื้ออาหารเช้าที่ยุโรป หากต้องการหากินเอง คงจบที่แซนด์วิช แต่โชคดีมากที่เดินไปเจอร้านอาหารของมหาวิทยาลัยวรอชวาฟ อาหารหลากหลาย เมนูสุขภาพมากๆ ขอแชร์โลเคชัน เผื่อใครที่ได้มีโอกาสแวะมาเมืองนี้ แล้วอยากกินอาหารอร่อย บรรยากาศดี ต้องที่นี่เลย ให้ 5 ดาว แน่นอนมีเกี๊ยวโปแลนด์ให้ได้ลิ้มลองหลากแบบด้วย 😛
10. ขึ้นรถ Tram หรือรถเมล์ฟรี
ในข้อมูลจากที่อ่านมาคือ เวลาจะขึ้นรถบัสหรือ Tram จะต้องไปซื้อบัตรที่ร้านขายของตามตู้ Kiosk แต่ของจริงคือ ต้องไปซื้อจากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติซึ่งตั้งอยู่ตามป้ายรถประจำทาง แต่มีอยู่ไม่ทุกป้าย แล้วจะทำอย่างไรหากอยากขึ้นแต่ไม่มีที่ซื้อตั๋ว ง่ายมากครับ ก็โดดขึ้นฟรีเลย คนโปแลนด์เองก็เหมือนกันจะไม่ค่อยมีใครจ่ายเงินด้วย ผมเลยคิดว่ารถประจำทางที่นี่เค้าคงขึ้นฟรีกันมั้ง ก็เห็นมีบางคนก็ไปสแตมป์บัตรกับเครื่องลงวันที่เหมือนกันนะ แต่คนส่วนใหญ่ไม่จ่ายน่ะ ผมเลยสรุปว่า ขึ้นฟรี ^^
11. ค่าเน็ตถูกมาก
ค่าเน็ตที่นี่ถูกมากๆ แค่ 5 Zloty (ซะรอตติ) หรือคิดเป็นเงินไทยง่ายๆ ก็คูณ 10 เท่ากับ 50 บาท ใช้งานเริ่มต้นได้ 6 GB ตลอดทริปคือ จ่ายแค่นี้จริงๆ สปีดก็ไม่ได้ถูกลด เคสนี้ผมเลือกใช้ของ Orange นะ
แนะนำให้ไปซื้อซิมที่สนามบิน หรือสถานีรถไฟใหญ่ เพราะซิมที่นี่ ซื้อแล้วใช้งานเลยไม่ได้ ต้อง Activate ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ส่งมาเป็น SMS ภาษาโปแลนด์ ต้องให้คนขายซิมช่วย หากไปซื้อร้านเล็กๆ จะไม่ค่อยรู้เรื่อง หาร้านที่อยู่ในสถานีรถไฟหลักของวอร์ซอว์ (Warszawa Centralna) จะดีที่สุด
แถมอีกนิด
ผมต้องเสียเวลาไปสถานทูตโปแลนด์ 2 รอบ เหตุเพราะเลือกกรอกฟอร์มผิดประเภท การไปเที่ยวโปแลนด์ระยะเวลาสั้นๆ ให้ใช้ฟอร์ม Schengen โดยเข้าไปที่เว็บ https://secure.e-konsulat.gov.pl/ เพื่อจองเวลายื่นเอกสารขอทำวีซ่า
เลือกเปลี่ยนภาษาเป็นอังกฤษตรงมุมขวาบนของเว็บ > เลือก Thailand > เลือก Bangkok > จากนั้นจะขึ้นหน้าเว็บตามรูปด้านบน ให้เลือกลิงค์ Schengen Visa ในการกรอกข้อมูลขอวีซ่า (ลิงค์ที่ทำกรอบสีเหลือง) ไม่เช่นนั้นจะถูกเจ้าหน้าที่ไล่ให้ไปกรอกข้อมูลใหม่เหมือนผม T_T